วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2555

สวัสดีค่ะ ผู้แวะเยี่ยมบล็อก นานาสาระเกษตร วันนี้จะนำสาระความรู้เรื่องการเลี้ยงปลาดุกในโอ่งแบบง่ายๆ มาให้ได้ดูกันค่ะ ที่ว่าง่ายๆ ก็คือ หาซื้อ ได้ไม่ยุ่งยาก เลี้ยงเอง กินเอง เหลือก็ขาย แล้วแต่ว่าจะมีเวลาสะดวกค่ะ สำหรับคนที่จะทำแบบจริงจัง ก็ให้ศึกษาตลาดของปลาดุกให้ดี ว่าเราจะขายที่ไหน หรือจะทำการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า ยังไงจะนำเรื่องการแปรรูปของปลาดุกมีแบบไดบ้าง มีวิธีการไหนบ้างมาบอกกันในวันหน้าแล้วกันนะค่ะ

การเลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์นั้น
 ต้องเตรียมอุปกรณ์ในการเลี้ยงปลาดุก ดังนี้ 
1. เตรียมโอ่งซีเมนต์  ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เมตร  สูง 50 เซนติเมตร ส่วนบริเวณก้นโอ่งท่านควรจะมีท่อระบายน้ำเพื่อใช้สำหรับถ่ายน้ำออก
ก่อนที่ท่านจะนำปลาลงมาเลี้ยงนั้นควรจะเอาน้ำใส่โอ่งทิ้งไว้สักระยะหนึ่งและล้างโอ่งซีเมนต์ให้สะอาดไม่ควรให้มีคราบของปูนซีเมนต์หลงเหลืออยู่  หากคราบปูนซีเมนต์ยังออกไม่หมดอาจทำให้ลูกปลาดุกที่ท่านนำมาเลี้ยงตายได้  วิธีขจัดคราบปูนซีเมนต์ควรหาหยวกกล้วยมาแช่ในท่อซีเมนต์ประมาณ 2 สัปดาห์  จึงสามารถเอาหยวกกล้วยออกจากท่อซีเมนต์แล้วล้างภายในโอ่งให้สะอาด  จากนั้นก็เริ่มปล่อยน้ำเข้าโอ่งซีเมนต์โดยระดับน้ำที่จะเลี้ยงลูกปลาดุกไม่ควรสูงมาก  เพราะลูกปลาดุกจะขึ้นมาหายใจสะดวก ระดับน้ำสูงประมาณ 20 เซนติเมตร  ซึ่งในแต่ละท่อปูนซีเมนต์ควรใส่ลูกปลาดุก 80-100 ตัว เป็นจำนวนที่เหมาะสม ในระหว่างอนุบาลลูกปลาดุกท่านควรหาผักตบชวามาใส่บ่อบ้างเพราะลูกปลาดุกจะชอบเข้าไปอาศัยในรากของผักตบชวา  ลูกปลาดุกยังได้กินดินหรือแพลงก์ตอนในรากผักตบชวาอีกด้วย

โดยในช่วงอนุบาลลูกปลาดุกจะให้อาหารสำเร็จรูปแบบเม็ด  กินอย่างเต็มที่วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เมื่อเลี้ยงได้ประมาณ 15-20 วัน ก็นำผักตบชวามาหรือพืชน้ำอื่นๆ ใส่ลงไปในบ่อซีเมนต์ประมาณ 5 กอต่อ 5 วัน พร้อมกับปรับระดับน้ำให้สูงขึ้นด้วยและค่อย ๆ ลดอาหารสำเร็จรูปโดยเมื่อปลาหิวจัดมันจะกินผักตบชวา  แม้ว่าผักตบชวาจะไม่มีค่าโปรตีนเลยแต่สามารถลดความหิวของปลาได้  ตกเย็นจึงเสริมด้วยอาหารสำเร็จรูป  เพื่อเพิ่มโปรตีนให้ปลาในจุดนี้แม้ว่าปลาจะได้อาหารที่มีโปรตีนต่ำ  แต่เมื่อปลาอยู่ในพื้นที่ที่จำกัดการเคลื่อนไหวและการใช้พลังงานก็น้อยและในการเลี้ยงปลาแบบนี้จะใช้ระยะเวลาประมาณ 3-4 เดือน  จะได้ปลาขนาด 3-4 ตัวต่อกิโลกรัม และในระหว่างการเลี้ยงจะมีการใช้น้ำหมักชีวภาพเพื่อช่วยในการปรับคุณภาพน้ำได้อีกด้วย  โดยจะใส่ทุกครั้งหลังจากการเปลี่ยนถ่ายน้ำหรือตามความเหมาะสม  น้ำหมักชีวภาพที่นำมาใช้จะผลิตขึ้นมาเองโดยใช้กล้วยน้ำว้า  ฟักทอง  และมะละกอ  อย่างละ 3 กิโลกรัม สับให้ละเอียดจากนั้นนำมาคลุกผสมกับกากน้ำตาล 3 กิโลกรัม หมักปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 7 วัน จากนั้นนำน้ำสะอาดปริมาตร 9 ลิตร เทใส่ลงไปพร้อมกับคนให้ส่วนผสมดังกล่าวคลุกเคล้าให้เข้ากัน  ตั้งทิ้งไว้อีกประมาณ 15 วัน หรือเมื่อมีกลิ่นหอมก็สามารถนำไปใช้งานได้ตามความต้องการ


ขั้นตอนการปล่อยพันธุ์ปลา
นำลูกปลาดุกใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ ค่อยๆนำน้ำในโอ่งเติมไปทีละน้อย เพื่อปรับอุณหภูมิค่อยๆปล่อยลูกปลาดุกลงในโอ่งซีเมนต์โดยในช่วงอนุบาลลูกปลาดุกจะให้อาหารสำเร็จรูปแบบเม็ด  กินอย่างเต็มที่วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เมื่อเลี้ยงได้ประมาณ 15-20 วัน ก็นำผักตบชวามาใส่ลงไปในท่อปูนซีเมนต์ประมาณ 5 กอต่อ 5 วัน พร้อมกับปรับระดับน้ำให้สูงขึ้นด้วยและค่อย ๆ ลดอาหารสำเร็จรูปโดยเมื่อปลาหิวจัดมันจะกินผักตบชวา  แม้ว่าผักตบชวาจะไม่มีค่าโปรตีนเลยแต่สามารถลดความหิวของปลาได้  ตกเย็นจึงเสริมด้วยอาหารสำเร็จรูป  เพื่อเพิ่มโปรตีนให้ปลาในจุดนี้แม้ว่าปลาจะได้อาหารที่มีโปรตีนต่ำ  แต่เมื่อปลาอยู่ในพื้นที่ที่จำกัดการเคลื่อนไหวและการใช้พลังงานก็น้อยและในการเลี้ยงปลาแบบนี้จะใช้ระยะเวลาประมาณ 3-4 เดือน  จะได้ปลาขนาด 3-4 ตัวต่อกิโลกรัม
และในระหว่างการเลี้ยงจะมีการใช้น้ำหมักชีวภาพเพื่อช่วยในการปรับคุณภาพน้ำได้อีกด้วย  โดยจะใส่ทุกครั้งหลังจากการเปลี่ยนถ่ายน้ำหรือตามความเหมาะสม  น้ำหมักชีวภาพที่นำมาใช้จะผลิตขึ้นมาเอง

วิธีการเลี้ยงปลาด้วยน้ำหมักชีวภาพ

                เมื่อเอาน้ำใส่โอ่งจนได้ที่แล้ว ให้ใส่น้ำหมักชีวภาพลงไปเพียงเล็กน้อยตามความเหมาะสม เพื่อให้จุลินทรีในน้ำหมักไปปรับสภาพน้ำให้เป็นปกติก่อน เมื่อนำปลาลงไปเลี้ยง ค่อยๆสังเกตคุณภาพน้ำและตัวปลาว่ามีอาการผิดปกติใดบ้าง

หากปกติก็ให้ใสน้ำหมักเพียงเล็กน้อยในรอบ 10 วัน หากว่าคุณภาพน้ำเปลี่ยนไปมากก็ให้เพิ่มน้ำหมักชีวภาพให้มากกว่าที่ใส่ปกติ รอบการใส่ก็ให้ถี่ขึ้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับจำนวนปลาและขนาดของโอ่งที่ใช้เลี้ยงด้วย


ผลที่ได้
ปลาเจริญเติบโตเร็ว แข็งแรง น้ำไม่มีกลิ่นเหม็น

แหล่งที่มา : gotoknow.org/blogs/posts/
ภาพบางส่วนจากอินเตอร์เน็ต          


Related Posts:

  • ปลูกดอกขจรขายง่ายกำไรตลอดทั้งปี  หลายคนอาจจะรู้จักดอกสลิด หรือดอกขจร เพราะหลายพื้นที่นิยมนำมาทำอาหารบริโภคทั้งแบบสดและลวกให้สุก และหลายครัวเรือนก็ทราบดีว่าดอกขจรนั้นมีสรรพคุณทางยาด้วย อาทิ ยอดอ่อน ดอก ลูกอ่อน บำรุงธาตุ บำรุงตับ ปอด แก้เสมหะเป็นพิษ ราก… Read More
  • การเลี้ยงกบในบ่อซีเมนต์สวัสดีค่ะ เพื่อนๆบล็อกนานาสาระเกษตร วันนนี้จะนำสาระเรื่องการเลี้ยงกบในบ่อซีเมนต์มาฝากกันนะค่ะ มาติดตามกันค่ะเงินลงทุน ประมาณ 8,000 บาท ต่อการเลี้ยงกบในบ่อปูนซีเมนต์ 4 บ่อรายได้ ครั้งแรก 16,000 - 24,000 บาท วัสดุ/อุปกรณ์ แม่พั… Read More
  • เพาะเลี้ยงปลวกเพื่อใช้เป็นอาหารไก่และปลาการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ด้านการเลี้ยงสัตว์  โดยยึดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เน้นการพึ่งพาตนเอง โดยการนำวัสดุอุปกรณ์ที่หาได้ภายในท้องถิ่น อาศัยหลักการพึ่งพาธรรมชาติในการเลี้ยง และวิธีการต่าง ๆ ที่จะช่วยลดต้นทุนการผลิต  ก็จะช่… Read More
  • การเลี้ยงแมงดานา สร้างรายได้สวัสดีค่ะ วันนี้จะนำเรื่องการเลี้ยงแมงดานามาฝากผู้เยี่ยมชมบล็อกนานาสาระเกษตรสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำทีเดียวนะค่ะ มาติดตามกันค่ะเมื่อพูดถึงแมงดานา ทุกคนก็คงจะนึกถึงน้ำพริกแมงดาและก็คงจะเคยกินน้ำพริกแมงดากันมาบ้างแล้ว ปัจ… Read More
  • การเลี้ยงตุ๊กแก“ตุ๊กแกบ้าน”  (Gekko   gecko)  หรือที่ชาวจีนเรียกว่า กาบก่าย มีอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศไทยและกระจายอยู่ในประเทศอินเดียตอนเหนือ จีนตอนใต้ ลาว เขมร มาเลเซีย อีกทั้งมีการนำเข้าไปขยายพันธุ์ในรัฐฮาวาย ฟลอริดา ประเทศส… Read More

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Follow on FaceBook

ฟอร์มรายชื่อติดต่อ

ชื่อ

อีเมล *

ข้อความ *

Popular Posts